สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึงประเด็นปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าระหว่างการจ่ายเงินซื้อสินค้าด้วยเงินสด ซึ่งปัญหาที่เจอกันบ่อย ๆ และเป็นสิ่งที่ป้องกันและเลี่ยงได้ยากในระหว่างการซื้อ-ขายสินค้านั้นก็คือ ความผิดพลาดในการดูธนบัตรหรือแบงก์ที่นำมาใช้จ่าย เนื่องจากมีพ่อค้าแม่ค้าหลายรายเจอปัญหา “ทอนเงินผิด” ในช่วงที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าจำนวนมากแล้วไม่ได้ทันระวังหรือสังเกตดูให้ดีเช่น ลูกค้าจ่ายเงินด้วยแบงก์ร้อยแต่พ่อค้าแม่ค้าดูผิดเป็นแบงก์พัน (สีคล้ายกัน) ก็เลยทอนเงินไปหลายร้อยบาท ให้สินค้าแถมให้เงินไปใช้อีก เรียกได้ว่าขาดทุนยับกันเลยทีเดียว
และที่แย่ไปกว่านั้นสำหรับพ่อค้าแม่ค้าก็คือเจอ “ธนบัตรปลอม” หรือ แบงก์ปลอม ถ้าโดนแบงก์พันปลอมมาสัก 1 ใบ บอกเลยว่าถึงกับน้ำตาตกแน่นอน เพราะสำหรับพ่อค้าแม่ค้า เงิน 1 พันบาท มันอาจจะเป็นกำไรของเขาทั้งวันเลยก็ว่าได้ และยังมีที่แย่ไปกว่านั้นอีก (แค่นี้ยังแย่ไม่พออีกหรือ? *-*) คือเจอประมาณว่าพวกมิจฉาชีพในคราบลูกค้าที่มาโกงเงินทอน ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับคนพวกนี้อีก ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีข่าวออกมาให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ
นอกจากปัญหาที่เจอกันบ่อย ๆ และชวนให้พ่อค้าแม่ค้าปวดหัวและเสียความรู้สึก ยังมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในระหว่างการซื้อ-ขายสินค้าที่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ เพราะปัญหานี้ถ้าใครทำอาชีพค้าขาย โดยเฉพาะร้านค้าแผงลอยตามตลาดนัดทั่วไป จะเจอกันแทบทุกคนก็คือ เจอลูกค้าจ่ายแบงก์ใหญ่แล้วไม่มีเงินทอนเช่น ซื้อของ 50 บาท จ่ายแบงก์พัน ก็ต้องหาแลกร้านค้าข้าง ๆ กันให้วุ่นวายเลยทีเดียว (บางทีลูกค้าหรือเราอาจจะมองว่า มาทำอาชีพค้าขายทำไมไม่เตรียมเงินทอนให้พร้อม)
ซึ่งจริง ๆ แล้ว พ่อค้าแม่ค้าเขาเตรียมเงินทอนมาพร้อมแล้วนะครับ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เตรียมมา แต่เป็นเพราะก่อนหน้าพ่อค้าแม่ค้าเขาเจอลูกค้าจ่ายแบงก์พันมาหลายรายแล้ว จนไม่มีแบงก์ย่อยพอที่จะทอนให้อีกแล้วไงล่ะครับ เจอติด ๆ กันสัก 4-5 ใบก็หมดละ -*- ก็ต้องเห็นใจพ่อค้าแม่ค้าร้านแผงลอยตามตลาดนัด พกเงินมาเยอะ ๆ มันอันตราย เสี่ยงหาย เสี่ยงโดนขโมย โดนจี้โดนปล้นขึ้นมาจะแย่เอาครับ
ผมอาจจะเน้นปัญหาทางฝั่งผู้ขายหรือผู้ประกอบการรายย่อย ร้านค้าแผงลอย มากหน่อยนะครับ เพราะอยากให้ตัวผู้ประกอบอาชีพหรือพ่อค้าแม่ค้าเห็นถึงปัญหาและอยากให้ปรับตัวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้น เพราะยิ่งถ้ามีร้านค้าที่รองรับการจ่ายเงินแบบ e-Payment มากขึ้น ก็ยิ่งจะทำให้ผู้ซื้อหันมาจ่ายเงินช่องทางนี้มากขึ้นด้วยครับ
มาดูในมุมของลูกค้าหรือผู้ซื้อกันบ้างกับปัญหาการจ่ายเงินซื้อสินค้าด้วยเงินสด ดูแล้วก็ไม่ต่างอะไรกันกับของพ่อค้าแม่ค้าหรอกครับเช่น ทอนเงินผิด ทอนเงินขาด ลืมทอนเงิน หรือไม่มีเงินทอน ซึ่งปัญหาเหล่านี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็เคยเจอกันไม่มากก็น้อย และนอกจากนี้ยังมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องให้เรากังวลหรือต้องคอยระวังระหว่างเดินทางออกไปจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็น กลัวเงินหล่นหาย กลัวโดนจี้โดนปล้น กลัวเตรียมเงินมาไม่พอซื้อสินค้า เป็นต้น
มาถึงตรงนี้ ก็พอได้เห็นปัญหาจากการใช้เงินสดซื้อขายสินค้ากันบ้างแล้วนะครับ ซึ่งถ้าทุกคนเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ก็จะทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป การซื้อขายสะดวก ลดปัญหาการจ่ายเงิน ไม่ต้องใช้เงินทอน ไม่ต้องกลัวแบงก์ปลอม ไม่ต้องกลัวเงินหล่นหาย จะใช้จ่ายเท่าไรก็มีเงินเพียงพอ ไม่ต้องกลัวคนโกงเงินหรือมั่วนิ่ม เพราะว่าสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้หมด มีการเก็บประวัติการรับเงินจ่ายเงินได้อย่างถูกต้องแม่นยำ บอกได้เลยว่า สังคมไร้เงินสดช่วยให้ดำเนินชีวิตสะดวกสบายคล่องตัวมากยิ่งขึ้นมาก ๆ และทั้งหมดนี้ก็คือข้อดีบางส่วนของสังคมไร้เงินสดที่อยากนำมาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังครับ
ท้ายนี้ อยากให้ทุกคนเห็นว่าสังคมไร้เงินสด ก็มีข้อดีของตัวมันเอง ช่วยแก้ปัญหาการดำเนินชีวิตประจำวันได้หลาย ๆ อย่าง และที่สำคัญคือการเข้าสู่สังคมไร้เงินสดไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ พร้อมที่จะเรียนรู้ เชื่อว่าทุกคนทำได้ครับ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก อินเทอร์เน็ต
ข้อมูลและรูปภาพจากเว็บไซต์ ธนาคารแห่งประเทศไทย
ภาพข่าวจาก AMARIN TV
รูปภาพจากเว็บไซต์ varietyded.com