สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่อง e-Wallet (อีวอลเล็ท) ว่ามันคืออะไรและสำคัญกับชีวิตเราในยุคปัจจุบันอย่างไรกันบ้าง คำว่า e-Wallet มันก็คือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital Wallet ถ้าพูดง่าย ๆ มันก็คล้ายกับกระเป๋าสตางค์ใบสวย ๆ แบบปกติที่เราเอาไว้ใส่พวกธนบัตรหรือเหรียญนั่นแหละ ต่างกันก็เพียง e-Wallet มันไม่สามารถจับต้องได้เท่านั้นเองครับ
ถ้า e-Wallet มันจับต้องไม่ได้ แล้วมันอยู่ในรูปแบบไหน?
ถ้าเป็นกระเป๋าสตางค์แบบปกติเราก็สามารถมองเห็นและจับต้องมันได้ รวมทั้งเงินธนบัตรหรือเหรียญที่อยู่ข้างในด้วย แต่สำหรับเจ้าตัว e-Wallet เราจะไม่สามารถจับต้องมันได้ รวมทั้งเงินที่อยู่ในนั้นจะเป็นดิจิทัลทั้งหมด เพราะมันจะถูกจับใส่ในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนของเรา อยู่ในรูปแบบของแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ โดยมีฟังก์ชันและเมนูการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ไว้สำหรับให้เราใช้งานมากมายเลยล่ะครับ
ผมขอยกตัวอย่างแอพพลิเคชั่น e-Wallet หรือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันก็อย่างเช่น TrueMoney Wallet, AirPay Wallet, Dolfin Wallet, เป๋าตัง G-Wallet และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นของธนาคาร ที่เป็นได้ทั้ง Mobile Banking และ e-Wallet ในตัวเดียวกันไม่ว่าจะเป็น SCB Easy, K PLUS, Krungthai NEXT, MyMo by GSB เป็นต้น ซึ่งแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ล้วนมีฟังก์ชันและเมนูการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานสามารถรับเงิน โอนเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้อย่างครบครันเลยทีเดียวครับ
จะใช้ e-Wallet ต้องมีอะไรบ้าง?
สำหรับ e-Wallet หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์นั้น จะอยู่ในรูปแบบของแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนของเรา ดังนั้นสิ่งที่เราต้องมีก็คือ
1. โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน จะเป็นยี่ห้อและรุ่นอะไรก็ได้ ทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS (iPhone)
2. อินเทอร์เน็ต จากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เครือข่ายไหนก็ได้ ทั้งระบบ 3G, 4G และ 5G
เมื่อมีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนพร้อมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว ก็ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชั่น e-Wallet ให้เสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ทำการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเพื่อเปิดการใช้งานตามขั้นตอนต่าง ๆ ให้สมบูรณ์ครับ (ขั้นตอนโดยละเอียดของแต่ละแอพพลิเคชั่นจะขออธิบายในภายหลังครับ)
e-Wallet ใช้งานอย่างไร?
ปกติเราจะรับเงินสดจากผู้อื่นหรือกดจากตู้ ATM เอามาใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ เวลาจะเอาเงินให้ใครหรือจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้า เราก็หยิบเงินสดในนั้นออกมาให้หรือจ่ายตามจำนวนที่ต้องการ แต่สำหรับ e-Wallet นั้นใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ในการรับเงิน โอนเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ โดยทำผ่านแอพพลิเคชั่นที่ได้ติดตั้งไว้ ซึ่งเราจะต้องนำเงินใส่ไว้ใน e-Wallet ก่อนเพื่อให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ได้ ซึ่งเจ้า e-Wallet นั้นจะมีรหัส ID หรือตัวเลขที่ใช้อ้างอิงในการรับเงินของตัวมันเองอยู่ด้วย หรือพูดง่าย ๆ ก็คือเหมือนกับเลขบัญชีธนาคารนั่นเองครับ ในที่นี้ผมจะขอยกตัวอย่าง แอพพลิเคชั่น เป๋าตัง G-Wallet ซึ่งเป็นที่นิยมและเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินและใช้งานกันมาบ้างแล้ว จะเห็นได้ว่าเราจำเป็นต้องเติมเงินเข้า G-Wallet ก่อน จึงสามารถนำไปใช้จ่ายหรือใช้สิทธิชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้นั่นเองครับ
นำเงินเข้า e-Wallet อย่างไร?
สำหรับวิธีการนำเงินหรือเติมเงินเข้าสู่ระบบนั้นมีหลากหลายวิธีเช่น เติมผ่านตู้บุญเติม, เติมผ่านตู้ ATM, เติมจาก Mobile Banking, เติมผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส, หรือผูกแอพพลิเคชั่น e-Wallet เข้ากับบัตรเดบิตหรือบัญชีธนาคารเพื่อดึงเงินเข้าสู่ระบบ นอกจากนี้แล้วยังสามารถรับโอนเงินจาก e-Wallet ของผู้อื่นโดยตรงได้อีกด้วย ผมจะขออ้างอิงจากแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง G-Wallet ที่สามารถเติมเงินเข้าได้หลายช่องทาง โดยการใช้เลข G-Wallet ID อ้างอิงในการรับเงิน ซึ่งของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เมื่อระบุ ID และจำนวนเงินเสร็จเรียบร้อยระบบก็จะทำการโอนเงินเข้ามาใน G-Wallet ก็เป็นอันเสร็จสิ้น เราก็สามารถนำไปใช้จ่ายหรือใช้สิทธิชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้แล้วครับ
e-Wallet ชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้อย่างไร?
เมื่อได้นำเงินเข้าสู่ e-Wallet แล้วเราก็สามารถทำการจ่ายเงินให้กับร้านค้า ชำระค่าสินค้า หรือโอนเงินค่าบริการต่าง ๆ ได้หลายวิธีเช่น สแกนจ่ายให้ร้านค้าผ่าน QR Code , ระบุเลขอ้างอิงของบิลค่าบริการต่าง ๆ, ระบุเลข ID ของผู้รับโอน และอื่น ๆ อีกมากมาย ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ กับการใช้แอพพลิเคชั่น เป๋าตัง G-Wallet ซึ่งจะเห็นได้ว่าตอนจ่ายเงินให้กับร้านค้า เราใช้โทรศัพท์มือถือกดสแกน QR Code ที่ทางร้านค้าสร้างขึ้นมาใช้สำหรับรับเงินตามจำนวนราคาของสินค้านั้น ๆ จากเรา และเมื่อดำเนินการและยืนยันเสร็จสิ้น เงินในกระเป๋า G-Wallet ของเราก็จะถูกโอนไปยัง กระเป๋า G-Wallet ของพ่อค้าแม่ค้าโดยอัตโนมัติครับ
มาถึงท้ายนี้เป็นยังไงกันบ้าง พอจะเข้าใจความหมายของ e-Wallet (อีวอลเล็ท) กันบ้างแล้วใช่ไหมครับ ได้เห็นขั้นตอนและวิธีการต่าง ๆ ในการใช้งาน สรุปง่าย ๆ e-Wallet ก็คือสิ่งที่ทำให้เราไม่ต้องพกเงินสดติดตัวจำนวนเยอะ ๆ ไม่เสี่ยงต่อการสูญหายและการถูกขโมย ง่ายต่อการใช้จ่ายชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบสัมผัสเงินสด ทำให้ชีวิตคล่องตัวยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าทั้งปลอดภัยและสะดวกสบายไปพร้อมกันเลยทีเดียวครับ
